ก่อน หน้านี้เคยได้รับ fwd mail ที่ชื่อว่า “ทำไมน้ำตกถึงสวย” ตอนนั้นอ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจ จนกระทั่งได้ฟังเรื่องทำนองเดียวกันจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านมาถามว่า เคยไหม เวลามีคนให้ของ ให้ความช่วยเหลือ หรืออะไรก็ตามกับเรา เราจะรู้สึกเกรงใจ อุ้ย เกรงใจจังเลย ไม่กล้ารับ กลัวว่ามันจะน่าเกลียด……
เชื่อ ว่าเกือบทุกคน น่าจะซัก 98% ต้องรู้สึก เพราะเราถูกสอนมาว่า “ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” ประโยคที่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก บางคนถูกสอนมาว่า อย่าไปเอาของคนอื่น ต่อไปนี้ ความคิดแบบนี้คือความคิดผิดๆ ให้ทุกคนปรับความคิดเสียใหม่ว่า มันเป็นสิ่งที่เราควรได้รับ และเราคู่ควร ถึงตรงนี้คนที่ไม่เข้าใจอาจจะเกิดความรู้สึกต่อต้านบทความนี้ แต่ขอให้อ่านต่อไปจนจบ
บทความนี้ไม่ได้สอนให้เราเป็นคนเห็นแก่ได้ แต่กำลังสอนให้เรามองในอีกมุมหนึ่งเท่านั้น
ทำไมถึงต้องบอกว่า เราคู่ควร?
มัน คือเหตุผลเดียวกันกับว่า ทำไมน้ำนิ่งถึงเน่า? เพราะน้ำนิ่งมันไม่มีการไหลเวียนนี่เอง เหมือนกันกับการที่เราปลูกต้นไม้ แต่เอาถุงพลาสติกไปห่อรากไม้เอาไว้โดยที่เราไม่มีการเจาะรูระบายน้ำหรือ อากาศ ไม่ให้รากไม้ได้มีโอกาสหายใจเอาสารอาหารใหม่ๆ เข้าไป เราอยากจะให้ต้นไม้โต เราก็รดน้ำเข้าไป ตากแดดเข้าไป นานเข้ารากไม้มันก็จะเน่า เพราะมันไม่มีการระบายนั่นเอง
และมัน ก็คือเหตุผลเดียวกันกับประโยคที่ว่า “ทำไมน้ำตกถึงสวย” ก็เพราะน้ำตกมันไม่มีการเก็บน้ำไว้ในชั้นของตัวเอง เวลามันตกลงมาจากชั้นหนึ่งแล้ว มันก็จะถูกส่งต่อไปอีกชั้นหนึ่งทันที และมันก็จะส่งต่อไปเรื่อยๆ มันถึงได้มีสเน่ห์
สังเกตุไหมว่า เวลาเราให้สิ่งดีดีแก่ใคร เรามักจะได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนกลับมาเสมอ เราทำบุญทำทาน เราก็จะได้รับบุญกุศลกลับมา เรายิ้มให้คนอื่น คนอื่นก็จะยิ้มให้เรา เราช่วยเหลือคนอื่น ในวันข้างหน้า คนอื่นก็จะช่วยเหลือเรามากกว่าที่เราช่วยเค้าไว้ ดังนั้น ถ้าเรามัวแต่มาเกรงใจเวลาคนอื่นมอบสิ่งดีดีให้กับเรา ก็เท่ากับเราตัดโอกาสดีดีของคนๆ นั้นไปด้วยหรือเปล่า
“ได้ให้โอกาสคนอื่นพัฒนาชีวิต ให้โอกาสคนอื่นได้รับสิ่งดีดีในชีวิต”
…และอย่าทำตัวเป็นน้ำนิ่ง เพราะคุณรู้ดีว่า น้ำตก สวยกว่า น้ำนิ่ง แค่ไหน…

credit: http://blog.gdi4sure.ws/2010/07/การให้-การรับ-และ-ความเก/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น